2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม
-
อ้างอิงนิยามตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
บริษัทมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ระบุ พร้อมทั้งฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
บริษัทอาจมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลประเภทอ่อนไหวโดยปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ บริษัทมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยตรง หรืออาจมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งอื่น เช่น บริษัทที่ท่านเป็นกรรมการ ผู้แทน ผู้รับมอบอำนาจ หรือผู้ปฏิบัติงาน เป็นต้น
2.1.ข้อมูลส่วนบุคคลประเภททั่วไป
-
ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล เลขประจำตัวบัตรประชาชน เลขหนังสือเดินทาง สำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง วัน เดือน ปีเกิด เพศ อายุ สัญชาติ รูปถ่าย หมายเลขบัญชีธนาคาร หมายเลขบัตรเครดิต
ประวัติการซื้อสินค้าและบริการ ประวัติการทำธุรกรรมระหว่างท่านกับบริษัท ข้อมูลการบันทึกภาพ เสียง รวมถึงการบันทึกภาพผ่านกล้องวงจรปิด LINE ID และ Facebook account
2.2.ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทอ่อนไหว
-
ข้อมูลศาสนา ที่ปรากฎตามสำเนาบัตรประชาชนของท่าน
3.วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
-
บริษัทดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์หลายประการโดยขึ้นอยู่กับลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัท ดังต่อไปนี้
- - เพื่อพิจารณาอนุมัติเข้าทำสัญญา หรือการดำเนินการตามคำขอเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทและเพื่อเข้าทำสัญญากับท่านในฐานะคู่สัญญา หรือในฐานะที่ท่านเป็นกรรมการ ผู้แทน ผู้รับมอบอำนาจ หรือผู้ปฏิบัติงานในนามของนิติบุคคล
- - เพื่อการใช้ผลิตภัณฑ์ สิทธิประโยชน์ หรือบริการต่าง ๆ ของบริษัท รวมทั้งการปฏิบัติตามสัญญา การแจ้งข้อมูลหรือแจ้งเตือนใด ๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ท่านมีอยู่กับบริษัท การชำระเงิน การออกใบเสร็จ
การออกใบกำกับภาษี การจัดส่งสินค้าหรือบริการ การรับหรือส่งข้อมูลและเอกสารติดต่อระหว่างท่านกับบริษัท และการปฏิบัติตามกระบวนการภายในของบริษัท เช่น การให้เครดิตและจัดประเภทลูกค้า เป็นต้น
-
- เพื่อการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าของบริษัท เช่น การติดต่อสื่อสารกับท่านในการให้ข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท การจัดการข้อร้องเรียน เป็นต้น
-
- เพื่อสำรวจความพึงพอใจของท่านเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท และวิเคราะห์ความสนใจของท่าน รวมทั้งประวัติการซื้อผลิตภัณฑ์หรือการใช้บริการ เพื่อประเมิน จัดการ ปรับปรุง ดำเนินการวิจัย วางแผน และพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ และรายการส่งเสริมการขายต่าง ๆ ของบริษัท ให้ตรงตามความต้องการของท่านได้ดียิ่งขึ้น
-
- เพื่อแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท รายการส่งเสริมการขายต่าง ๆ การดำเนินกิจกรรมทางการตลาด การเชิญชวนเข้าร่วมงานกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ ของบริษัท และสื่อสารเกี่ยวกับกิจกรรมและโครงการดังกล่าว รวมทั้งนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการต่าง ๆ ของบริษัท
4.ฐานกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
-
บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นภายใต้ขอบเขตของนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ในกรณีต่อไปนี้
-
- เมื่อบริษัทได้รับความยินยอมจากท่าน สำหรับกรณีที่กฎหมายกำหนดให้ต้องขอความยินยอม
-
- เพื่อดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญาหรือเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาระหว่างท่านและบริษัท
-
- เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
-
- เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัท
-
ในกรณีที่บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอ้างอิงความยินยอมเป็นฐานทางกฎหมาย ท่านมีสิทธิในการถอนความยินยอมของท่านได้ทุกเมื่อผ่านช่องทางที่บริษัทกำหนด ทั้งนี้
การถอนความยินยอมของท่านไม่กระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เกิดขึ้นแล้วก่อนการถอนความยินยอมโดยอ้างอิงความยินยอมโดยชอบด้วยกฎหมาย
-
บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบต่างหาก ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมข้างต้นเป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อบริษัทในการปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ ที่ใช้บังคับหรือการปฏิบัติตามสัญญา รวมถึง ผลกระทบหากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นดังกล่าว
5.ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
-
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ หลักเกณฑ์ที่ใช้กำหนดระยะเวลาเก็บ ได้แก่
ระยะเวลาที่บริษัทดำเนินความสัมพันธ์กับท่าน และอาจเก็บต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและข้อกำหนดภายในองค์กรของบริษัท
-
บริษัทอาจมีความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหลังจากระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลที่กำหนด อย่างไรก็ตาม เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท
บริษัทจะทำลายหรือลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านออกจากระบบทันที
6.การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
-
ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายนี้ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอก ดังต่อไปนี้ ทั้งนี้ กรณีที่มีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด
รวมทั้งจะแจ้งให้ท่านทราบ และขอความยินยอมจากท่านในกรณีที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
-
- บริษัทย่อย บริษัทในกลุ่ม และบริษัทในเครือ เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินธุรกิจ การบริหารงานภายใน
-
- หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งใช้อำนาจตามกฎหมาย เช่น กรมสรรพากร เป็นต้น
-
- ตัวแทน ผู้รับจ้าง/ผู้รับจ้างช่วง และ/หรือผู้ให้บริการสำหรับการดำเนินงานใดๆ เช่น ผู้ให้บริการขนส่ง ผู้ให้บริการด้านการชำระเงินและระบบชำระเงิน ผู้ตรวจสอบบัญชี ทนายความ ที่ปรึกษากฎหมายและภาษี ที่ปรึกษาใด ๆ
-
ในกรณีที่บริษัทมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นไปต่างประเทศ บริษัทจะจัดให้มีมาตรการการคุ้มครองและรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เช่น การทำสัญญาแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล สัญญาประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
หรือข้อตกลงระหว่างบริษัทย่อย บริษัทในกลุ่ม และบริษัทในเครือ และจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่ ประเทศผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลมีมาตรการการคุ้มครองและรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
หรือ บริษัทได้ขอความยินยอมโดยชอบด้วยกฎหมายจากท่านก่อนการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล หากท่านมีความประสงค์ในการรับทราบรายละเอียดมาตรการการคุ้มครองและรักษาความปลอดภัยของบริษัท ท่านสามารถติดต่อขอรับรายละเอียดได้ที่ช่องทางการติดต่อที่ระบุในนโยบายนี้
7.สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
-
ท่านมีสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในการดำเนินการ ดังต่อไปนี้
-
- สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิขอเพิกถอนความยินยอมที่ให้ไว้แก่บริษัท ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน ทั้งนี้
การถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทก่อนหน้าแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย
-
- สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท รวมถึงขอให้บริษัท เปิดเผยถึงการได้มา ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม
-
- สิทธิในการให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัทได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ
ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลจากบริษัทได้ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นได้ตามที่กฎหมายกำหนด
-
- สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวกับท่านสำหรับกรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามที่กฎหมายกำหนด
-
- สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ด้วยเหตุตามที่กฎหมายกำหนด
-
- สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลของท่านด้วยเหตุตามที่กฎหมายกำหนด
-
- สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
-
- สิทธิในการร้องเรียน ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อบริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้
-
หากท่านมีความประสงค์จะใช้สิทธิดังกล่าว ท่านสามารถติดต่อขอใช้สิทธิได้ที่ช่องทางการติดต่อที่ระบุในนโยบายนี้
8.มาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
-
บริษัทได้กำหนดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมและเข้มงวดในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ
-
กรณีที่บริษัทมอบหมายให้บุคคลอื่นดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของบริษัท บริษัทจะกำกับดูแลบุคคลดังกล่าวอย่างเหมาะสมเพื่อให้มั่นใจได้ว่าบุคคลดังกล่าวจะรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล
ส่วนบุคคลของท่านตามกฏหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล